รีวิวประกันสุนัข-แมว 2569 เปรียบเทียบ 4 เจ้าดัง ข้อดี-ข้อเสีย ครบจบ!

น้องหมาน้องแมวป่วยทีนึง... ค่าหมอหลักพันถึงหลักหมื่นเลยนะ 😅

พอเป็นสมาชิกในครอบครัวแล้ว ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งห่วงมาก ถ้าน้องเจ็บป่วยขึ้นมา เราก็อยากให้น้องได้รับการรักษาที่ดีที่สุด แต่จะให้จ่ายหลักหมื่นทุกครั้งก็ใจสั่นเหมือนกัน

กำลังหา ประกันสัตว์เลี้ยงไหนดี 2569 อยู่ใช่ไหม? วันนี้เราเปรียบเทียบประกันหมาแมว 4 เจ้าดังในไทยมาให้ดูชัดๆ ว่าเจ้าไหนเหมาะกับใคร คุ้มไม่คุ้มยังไง มาดูกัน!

ทำไมต้องทำประกันให้น้อง?

ก่อนจะไปดูรายละเอียด ลองคิดดูนะว่าค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการพาน้องไปหาหมอแต่ละครั้งเป็นยังไงบ้าง:

• ตรวจสุขภาพทั่วไป: 500-1,500 บาท

• ถ่ายเอกซเรย์: 800-2,000 บาท

• ตรวจเลือด: 1,000-3,000 บาท

• ผ่าตัดทั่วไป: 5,000-20,000 บาท

• รักษาโรคซับซ้อน: 10,000-50,000+ บาท

น้องป่วยหนักทีนึง หมดไปหลายหมื่นได้ง่ายๆ เลย การมีประกันก็เหมือนมี backup ไว้ ไม่ต้องมานั่งลังเลว่าจะพาน้องไปหาหมอดีไหม

ศัพท์ที่ต้องรู้ก่อนเลือกประกัน

ก่อนไปดูรายละเอียดแต่ละเจ้า มาทำความเข้าใจคำศัพท์สำคัญกันก่อน:

ระยะรอคอย (Waiting Period) คือช่วงเวลาหลังทำประกันที่ยังเคลมไม่ได้ ส่วนใหญ่จะรอ 60 วันสำหรับการเจ็บป่วย (อุบัติเหตุมักคุ้มครองทันที) หมายความว่า ถ้าน้องป่วยแล้วค่อยมาทำประกัน จะยังเคลมไม่ได้ทันที ต้องทำตั้งแต่ตอนน้องยังแข็งแรงดี

แบบเหมาจ่าย คือประกันจ่ายเป็น % ของค่ารักษาจริง (เช่น 50%) โดยไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง แต่มีเพดานต่อปี ต่างจากแบบจ่ายตามจำนวนครั้งที่กำหนดวงเงินต่อครั้งไว้ชัดเจน

ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก คือความคุ้มครองกรณีน้องไปกัดคนหรือทำของเสียหาย ประกันจะจ่ายค่าเสียหายแทนเรา

เปรียบเทียบ 4 เจ้าดัง แบบชัดๆ

1. ทิพยประกันภัย (TIP Pet Lover)

เบี้ยเริ่มต้น: 500 บาท/ปี (แผน XS) ถึง 6,700 บาท/ปี (แผน XL)

จุดเด่น:

• แผนเยอะให้เลือก (5 แผน) เหมาะกับทุกงบ

• ไม่ต้องฝังไมโครชิพ

• ไม่ต้องตรวจสุขภาพ (สัตว์อายุ 3-7 ปี)

• ซื้อออนไลน์ได้เลย สะดวกมาก

• มีค่าวัคซีน ค่าฝากเลี้ยง ค่าประกาศหาน้องหาย

ความคุ้มครองหลัก (แผน S - เบี้ย 1,950 บาท/ปี):

• ค่ารักษาอุบัติเหตุ: 5,000 บาท/ครั้ง (สูงสุด 2 ครั้ง/ปี)

• ค่ารักษาเจ็บป่วย: 2,000 บาท/ครั้ง (สูงสุด 10 ครั้ง/ปี)

• ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก: 15,000 บาท/ปี

• ค่าวัคซีน: 500 บาท/ปี

• ค่าจัดพิธีศพ: 5,000 บาท

ข้อจำกัด:

• มีระยะรอคอย 60 วัน สำหรับการเจ็บป่วย

• ไม่คุ้มครองโรคผิวหนัง เห็บ หมัด

เหมาะกับ: คนที่อยากได้แผนครบเครื่อง ซื้อง่าย และมีหลายระดับราคาให้เลือก

2. เมืองไทยประกันภัย (Pet Chill)

เบี้ยเริ่มต้น: 629 บาท/ปี (แผน 1) ถึง 9,900 บาท/ปี (แผน 6)

จุดเด่น:

• 6 แผนให้เลือก ครอบคลุมทุกความต้องการ

• คุ้มครองค่ารักษาจากอุบัติเหตุสูงสุด 45,000 บาท/ปี

• คุ้มครองค่ารักษาจากเจ็บป่วยสูงสุด 15,000 บาท/ปี

• มีค่าวัคซีนให้ในแผนที่สูงขึ้น

• สมัครได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือน - 7 ปี (ต่ออายุถึง 10 ปี)

ความคุ้มครองหลัก (แผน 4 - เบี้ย 5,900 บาท/ปี):

• ค่ารักษาอุบัติเหตุ: 5,000 บาท/ครั้ง (สูงสุด 15,000 บาท/ปี)

• ค่ารักษาเจ็บป่วย: 1,000 บาท/ครั้ง (สูงสุด 5,000 บาท/ปี)

• คุ้มครองเสียชีวิต: 10,000 บาท

• ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก: 30,000 บาท

• ค่าวัคซีน: 500 บาท/ปี

• ค่าจัดงานศพ: 3,000 บาท

ข้อจำกัด:

• มีระยะรอคอย 60 วัน

• แผนเล็กไม่คุ้มครองเจ็บป่วย

เหมาะกับ: คนที่ต้องการวงเงินคุ้มครองอุบัติเหตุสูง และอยากได้แบรนด์ใหญ่ที่มั่นใจได้

3. Pet Friend Insurance (ไทยวิวัฒน์)

เบี้ยเริ่มต้น: 600 บาท/ปี (แผน 1) ถึง 8,000+ บาท/ปี (แผน 6)

จุดเด่น:

• แผน 3-6 เป็นแบบเหมาจ่าย ไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง

• คุ้มครอง 50% ของค่ารักษาจริง (แผน 3 ขึ้นไป)

• วงเงินคุ้มครองสูงถึง 200,000 บาท/ปี (แผน 6)

• ไม่ต้องฝังไมโครชิพ ไม่ต้องมีสมุดวัคซีน (บางแผน)

• สมัครง่ายมาก

ความคุ้มครองหลัก (แผน 3 - เบี้ย 2,900 บาท/ปี):

• คุ้มครองแบบเหมาจ่าย 50% ของค่ารักษาจริง

• วงเงินสูงสุด 20,000 บาท/ปี

• ครอบคลุม OPD, IPD และการผ่าตัด

ความคุ้มครอง (แผน 5 - เบี้ย 6,600 บาท/ปี):

• คุ้มครองแบบเหมาจ่าย 50% ของค่ารักษาจริง

• วงเงินสูงสุด 100,000 บาท/ปี

• เหมาะกับน้องพันธุ์ใหญ่ที่ค่ารักษาสูง

ข้อจำกัด:

• จ่ายแค่ 50% ของค่ารักษา (ไม่ใช่ 100%)

• มีระยะรอคอย 60 วัน

เหมาะกับ: คนที่มีน้องพันธุ์ใหญ่ หรือคาดว่าค่ารักษาอาจสูง เพราะระบบเหมาจ่ายไม่จำกัดต่อครั้ง

4. ฟอลคอนประกันภัย (Pet Protect Sure)

เบี้ยเริ่มต้น: 599 บาท/ปี ถึง 11,955 บาท/ปี

จุดเด่น:

• คุ้มครองโรคผิวหนัง เห็บ หมัด ไร เรื้อน (หายากในประกันอื่น!)

• 6 แผนให้เลือก

• มีทั้งแบบคุ้มครองอุบัติเหตุอย่างเดียว และแบบรวมเจ็บป่วย

ความคุ้มครองหลัก (แผน 3 - เบี้ย ~3,200 บาท/ปี):

• ค่ารักษาอุบัติเหตุ: คุ้มครองตามจริง

• ค่ารักษาเจ็บป่วย: คุ้มครองตามแผน

• ค่ารักษาโรคผิวหนัง เห็บหมัด: มีให้!

• ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก: มี

ข้อจำกัด:

• ซื้อออนไลน์ยากกว่าเจ้าอื่น ต้องผ่านตัวแทน

• รายละเอียดแผนค่อนข้างซับซ้อน

เหมาะกับ: คนที่มีน้องที่มีปัญหาผิวหนังบ่อย หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีเห็บหมัดเยอะ

สิ่งที่ประกันส่วนใหญ่ "ไม่" คุ้มครอง

ก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องรู้ไว้ว่าประกันสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ ไม่คุ้มครอง สิ่งเหล่านี้:

โรคที่เป็นอยู่ก่อนทำประกัน (Pre-existing Conditions) ถ้าน้องเคยเป็นโรคไตมาก่อน แล้วมาทำประกัน โรคไตจะไม่ได้รับความคุ้มครอง

โรคประจำพันธุ์ / โรคทางพันธุกรรม บางบริษัทยกเว้นโรคที่มักเกิดกับสายพันธุ์นั้นๆ เช่น Hip Dysplasia ใน Golden Retriever

การดูแลเชิงป้องกัน เช่น ตรวจสุขภาพประจำปี ถ่ายพยาธิ (ยกเว้นบางแผนที่ให้ค่าวัคซีน)

ค่าทำหมัน / ทำฟัน / ขูดหินปูน ถือเป็นการดูแลทั่วไป ไม่ใช่การรักษาโรค

โรคผิวหนัง เห็บ หมัด ไร เรื้อน ส่วนใหญ่ไม่คุ้มครอง ยกเว้นฟอลคอน

การบาดเจ็บ/เจ็บป่วยในช่วงระยะรอคอย 60 วันแรกหลังทำประกัน โรคที่เกิดขึ้นจะยังเคลมไม่ได้

💡 เคล็ดลับ: อ่านเงื่อนไขและข้อยกเว้นในกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเสมอ!

ตัวอย่างเคสจริง: ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ ประกันช่วยได้แค่ไหน?

เคส 1: น้องหมาท้องเสียกะทันหัน

สถานการณ์: น้อง Mochi (พุดเดิ้ล 2 ปี) ท้องเสียหนัก ต้องพักที่ รพ. 2 วัน ค่าใช้จ่ายจริง: 8,500 บาท

ประกัน แผน ได้รับชดเชย ทิพย S (1,950 บ./ปี) 2,000 บาท (ค่ารักษาเจ็บป่วย 2,000/ครั้ง) Pet Friend แผน 3 (2,900 บ./ปี) 4,250 บาท (50% ของค่ารักษา) เมืองไทย แผน 4 (5,900 บ./ปี) 1,000 บาท (ค่ารักษาเจ็บป่วย 1,000/ครั้ง)

สรุป: กรณีเจ็บป่วยค่าใช้จ่ายสูง แบบเหมาจ่ายอย่าง Pet Friend จะได้เงินคืนมากกว่า

เคส 2: น้องแมวโดนรถชน (อุบัติเหตุ)

สถานการณ์: น้อง ส้ม (แมวไทย 3 ปี) หลุดออกจากบ้าน โดนรถชน ต้องผ่าตัดขา ค่าใช้จ่ายจริง: 25,000 บาท

ประกัน แผน ได้รับชดเชย ทิพย L (4,200 บ./ปี) 10,000 บาท (ค่ารักษาอุบัติเหตุ 10,000/ครั้ง) Pet Friend แผน 5 (6,600 บ./ปี) 12,500 บาท (50% ของค่ารักษา) เมืองไทย แผน 5 (7,900 บ./ปี) 10,000 บาท (ค่ารักษาอุบัติเหตุ/ครั้ง)

สรุป: อุบัติเหตุหนักๆ ควรเลือกแผนที่วงเงินสูง หรือแบบเหมาจ่าย

เคส 3: น้องพันธุ์ใหญ่เป็นเนื้องอก ต้องผ่าตัด

สถานการณ์: น้อง Max (Golden Retriever 6 ปี) เจอก้อนเนื้อ ต้องผ่าตัดและติดตามอาการ ค่าใช้จ่ายจริง: 45,000 บาท (รวมค่าผ่าตัด + ติดตามอาการ 3 ครั้ง)

ประกัน แผน ได้รับชดเชย Pet Friend แผน 5 (6,600 บ./ปี) 22,500 บาท (50% ของค่ารักษา ไม่เกินวงเงิน 100,000/ปี) ทิพย XL (6,700 บ./ปี) ~20,000 บาท (ขึ้นกับจำนวนครั้ง)

สรุป: น้องพันธุ์ใหญ่ค่ารักษาสูง แนะนำแผนวงเงินสูงหรือแบบเหมาจ่าย

สำหรับน้องพันธุ์ใหญ่ ควรรู้อะไรบ้าง?

ถ้าเลี้ยง Golden Retriever, Labrador, German Shepherd หรือน้องพันธุ์ใหญ่อื่นๆ มีเรื่องควรรู้เพิ่มเติม:

1. ค่ารักษามักสูงกว่า

น้องตัวใหญ่ ยาก็ต้องใช้มากกว่า ผ่าตัดก็ซับซ้อนกว่า ค่าใช้จ่ายจึงสูงตาม ควรเลือกแผนที่วงเงินคุ้มครองสูงหน่อย

2. โรคประจำพันธุ์ที่พบบ่อย

• Hip Dysplasia (ข้อสะโพกเสื่อม): พบบ่อยใน Golden, Labrador, German Shepherd

• โรคหัวใจ: พบได้ในสุนัขพันธุ์ใหญ่หลายสายพันธุ์

• ท้องอืด (Bloat/GDV): อันตรายมาก พบในสุนัขอกลึก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน

⚠️ สำคัญ: โรคประจำพันธุ์บางอย่างอาจไม่ได้รับความคุ้มครอง ต้องเช็กกรมธรรม์ให้ดี

3. แผนที่แนะนำสำหรับพันธุ์ใหญ่

• Pet Friend แผน 5 (เบี้ย 6,600 บ./ปี): เหมาจ่าย 50% วงเงิน 100,000 บ./ปี

• ทิพย แผน L หรือ XL: วงเงินสูง คุ้มครองครอบคลุม

• เมืองไทย แผน 5-6: วงเงินอุบัติเหตุสูง

4. เรื่องความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

น้องตัวใหญ่ ถ้ากัดใครหรือทำของเสียหาย ก็อาจร้ายแรงกว่า ควรดูแผนที่มีความคุ้มครองส่วนนี้สูงๆ ด้วย

Checklist ก่อนซื้อประกันสัตว์เลี้ยง

ก่อนตัดสินใจ เช็กให้ครบทุกข้อ:

• ✅ เช็กระยะรอคอย — ส่วนใหญ่ 60 วัน ต้องทำตอนน้องยังแข็งแรง

• ✅ อ่านข้อยกเว้นกรมธรรม์ — โรคอะไรที่ไม่คุ้มครองบ้าง?

• ✅ เช็กวงเงินต่อครั้ง vs ต่อปี — บางแผนจำกัดต่อครั้ง บางแผนจำกัดต่อปี

• ✅ ดูว่าต้องฝังไมโครชิพไหม — บางเจ้าบังคับ บางเจ้าไม่ต้อง

• ✅ เช็กอายุน้อง — ส่วนใหญ่รับ 3 เดือน - 7 ปี เท่านั้น

• ✅ ดูวิธีเคลม — เคลมออนไลน์ได้ไหม? ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

• ✅ ถามคลินิกประจำ — รับเอกสารสำหรับเคลมประกันไหม?

คำถามที่ถูกถามบ่อย (FAQ)

Q: ประกันสัตว์เลี้ยงคุ้มครองอะไรบ้าง?

A: โดยทั่วไปคุ้มครอง: ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย, ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (กรณีน้องกัดคน/ทำของเสียหาย), ค่าจัดพิธีศพ และบางแผนมีค่าวัคซีน ค่าฝากเลี้ยงด้วย

Q: ประกันสัตว์เลี้ยงเคลมยากไหม?

A: โดยทั่วไปไม่ยาก แค่เก็บใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ให้ครบ แล้วยื่นเคลมตามช่องทางที่บริษัทกำหนด ส่วนใหญ่ทำผ่านออนไลน์หรือแอปได้ ใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการ

Q: น้องอายุเกิน 7 ปี ทำประกันได้ไหม?

A: ส่วนใหญ่รับสมัครใหม่แค่ถึง 7 ปี แต่ถ้าทำไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น สามารถต่ออายุได้ถึง 9-10 ปี (ขึ้นกับบริษัท) ถ้าน้องอายุเกินแล้ว อาจต้องหาแผนพิเศษหรือวางแผนเก็บเงินสำรองไว้เอง

Q: ไม่มีสมุดวัคซีนทำประกันได้ไหม?

A: บางแผนได้ บางแผนไม่ได้ Pet Friend บางแผนไม่ต้องมีสมุดวัคซีนก็สมัครได้ แต่ส่วนใหญ่จะขอดูประวัติวัคซีน

Q: ทำไมประกันส่วนใหญ่ไม่คุ้มครองโรคผิวหนัง?

A: เพราะโรคผิวหนัง เห็บหมัด เป็นง่ายและรักษาบ่อย ถ้าคุ้มครองจะทำให้เบี้ยแพงมาก เจ้าเดียวที่คุ้มครองตอนนี้คือฟอลคอน

Q: ซื้อประกันหลายเจ้าพร้อมกันได้ไหม?

A: ได้ แต่ส่วนใหญ่กำหนดว่า 1 ตัว ซื้อได้ 1 กรมธรรม์ต่อบริษัท ถ้าซื้อหลายเจ้า ตอนเคลมต้องแจ้งทุกบริษัท และรวมกันจะไม่เกินค่าใช้จ่ายจริง

Q: วิธีเลือกประกันสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับน้อง?

A: ดูจาก 3 อย่างหลักๆ คือ งบประมาณของเรา, ขนาดและสายพันธุ์ของน้อง (พันธุ์ใหญ่ค่ารักษาสูงกว่า), และความเสี่ยงเฉพาะ (เช่น น้องมีปัญหาผิวหนังบ่อยก็เลือกฟอลคอน)

สรุป: เลือกยังไงดี?

• งบน้อย อยากมีไว้เผื่อฉุกเฉิน → ทิพย แผน XS หรือ S (500-1,950 บ./ปี)

• อยากได้วงเงินสูง ไม่จำกัดต่อครั้ง → Pet Friend แผน 3 ขึ้นไป

• น้องตัวใหญ่ ค่ารักษาแพง → Pet Friend แผน 5-6 หรือ ทิพย แผน L-XL

• น้องมีปัญหาผิวหนังบ่อย → ฟอลคอน

• อยากได้แบรนด์ใหญ่ มั่นใจ → เมืองไทย หรือ ทิพย

สุดท้ายแล้ว การมีประกันให้น้องก็เหมือนการวางแผนล่วงหน้า วันที่น้องไม่สบาย เราจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และโฟกัสกับการดูแลน้องได้เต็มที่

บันทึกสุขภาพน้อง = เคลมง่ายขึ้น

รู้ไหมว่าการจดบันทึกอาการ น้ำหนัก และพฤติกรรมน้องอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่ช่วยให้เราจับความผิดปกติได้เร็ว แต่ยังช่วยเตรียมข้อมูลให้คุณหมอและประกันได้ครบถ้วนเวลาต้องเคลมด้วย

Pawjai ช่วยให้คุณบันทึกสุขภาพน้องได้ง่ายๆ ทุกวัน ดูประวัติย้อนหลังได้ทันที และเตรียมข้อมูลให้พร้อมเวลาไปหาหมอหรือติดต่อประกัน

ลองใช้ฟรี — เริ่มต้นดูแลสุขภาพน้องอย่างเป็นระบบวันนี้