
ประกันสัตว์เลี้ยง 599 บาท VS เก็บเงินเอง — แบบไหนคุ้มกว่ากัน? (อัพเดทปี 2026)
ค่าหมอปีนึงเฉลี่ย 24,000-30,000 บาท แต่ประกันเริ่มแค่ 599 บาท แล้วมันคุ้มจริงไหม? มาดูตัวเลขจริงกัน

เพื่อนเล่าให้ฟังเมื่อเดือนก่อนว่าหมดไปเกือบแสน พยายามรักษาตาของเชาเชาที่บ้าน ลองไปหลายคลินิก หลายวิธี สุดท้ายตาก็ไม่ดีขึ้น เงินแสนก็หาย แถมไม่ได้ทำประกันด้วย
พอได้ยินแบบนี้ก็เริ่มคิดเหมือนกันว่า ถ้ามีประกันจะช่วยได้ไหม? แล้วสำหรับคนไทยที่ค่าหมอยังไม่แพงเท่าอเมริกา มันจะคุ้มจริงไหมนะ?
เลี้ยงหมาแมวในกรุงเทพฯ ใช้เงินเท่าไหร่กันแน่?
ก่อนจะตัดสินใจเรื่องประกัน ต้องรู้ก่อนว่าค่าใช้จ่ายปกติมันอยู่ตรงไหน
ค่าใช้จ่ายต่อปี (ข้อมูลจริงจาก survey ปี 2025)
ดูแลแบบ basic: ประมาณ 7,700 บาท/ปี
ดูแลแบบ treat เหมือนลูก (อาบน้ำ ขนมดีๆ ของเล่นเพียบ): 41,000+ บาท/ปี
คนส่วนใหญ่ใช้จริง: 24,000-30,000 บาท/ปี
หมาพันธุ์ใหญ่ (กินเยอะหน่อย): 28,000-29,000 บาท/ปี
หมาเล็ก/แมว: 24,000-26,000 บาท/ปี
ราคาคลินิกทั่วไปในกรุงเทพฯ
ตรวจเช็ค: 300-600 บาท
วัคซีน: 600-800 บาท/เข็ม
วัคซีนพิษสุนัขบ้า: 300 บาท
ตรวจเลือด basic: 300-500 บาท
ตรวจเลือดครบชุด: 4,000 บาท+
X-ray: 600 บาท
ทำหมัน: 1,000-3,000 บาท
ส่วนที่ทำให้หลายคนตกใจ:
อาบน้ำตัดขนทุกเดือน: 700-900 บาท (ปีนึงเกือบหมื่น!)
โรงพยาบาลสัตว์ 24 ชม.: แพงกว่าปกติเยอะมาก
คลินิกแถวทองหล่อ สุขุมวิท: แพงกว่าที่อื่น 2-3 เท่า
ค่ารักษาที่ทำให้ใจหายวาบ
นี่แหละที่ทำให้หลายคนเริ่มคิดเรื่องประกัน เพราะบางโรคมันแพงจนไม่ได้เตรียมตัว
โรคเรื้อรังที่ต้องกินยาไปตลอด:
โรคหัวใจ: ยาเดือนละ 5,000-8,000 บาท (ปีนึง 60,000-96,000 บาท)
เบาหวาน: เดือนละ 4,000-13,000 บาท แล้วแต่ความรุนแรง
มะเร็ง TVT (แบบที่รักษาได้): คีโมประมาณ 3,800 บาท สำหรับ 2-3 เดือน
มะเร็งแพร่กระจาย: 55,000-80,000 บาท+
ผ่าตัดใหญ่ที่เจอบ่อย:
เอ็นไขว้ขาด (ACL/CCL): 45,000-210,000 บาท แล้วแต่ขนาดตัว
ผ่านิ่วกระเพาะปัสสาวะ: 50,000 บาท
ผ่าตัดตา: 70,000-150,000 บาท
ผ่าตัดฉุกเฉิน: บางทีเกินแสน
จาก Reddit มีคนเลี้ยงเชาเชา 6 ตัว แค่ตรวจเลือดทุกตัวก็ 20,000 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่ายาอีก 10,000 บาท ตัวนึงมีปัญหาตา รักษาไป 2-3 เดือน หมดไปแสนกว่า สุดท้ายก็ไม่หาย
ประกันสัตว์เลี้ยงในไทยมีอะไรบ้าง?
ตอนนี้มีหลายบริษัทให้เลือก ราคาและความคุ้มครองก็ต่างกันไป
ทิพยประกันภัย - TIP Pet Lover
แผน XS: 645 บาท/ปี (คุ้มครองแค่อุบัติเหตุ)
แผน M: 2,950 บาท/ปี (อุบัติเหตุ + เจ็บป่วย)
แผน XXL: 12,000 บาท/ปี (ครบทุกอย่าง)
FWD/Bolttech
แผน 2: 1,499 บาท/ปี
คุ้มครองอุบัติเหตุครั้งละ 1,000 บาท (สูงสุด 10,000/ปี)
คุ้มครองเจ็บป่วยครั้งละ 1,000 บาท (สูงสุด 10,000/ปี)
Pet Friend
แผน 5 (Premium): ประมาณ 8,000 บาท/ปี
จ่ายคืน 50% ของค่ารักษาจริง
วงเงินสูงสุด 100,000 บาท/ปี
ค่าเฉลี่ยประกันสัตว์เลี้ยงในไทยอยู่ที่ประมาณ 9,000 บาท/ปี (ข้อมูลจาก CheckDi)
ประกันคุ้มครองอะไร (และไม่คุ้มครองอะไร)
สิ่งที่ประกันมักคุ้มครอง:
ค่ารักษาอุบัติเหตุ (ถูกรถชน ตกจากที่สูง)
ค่ารักษาเจ็บป่วย (มีเงื่อนไข)
ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (10,000-15,000 บาท) ถ้าน้องกัดคน
ค่าฌาปนกิจ (3,000-15,000 บาท)
ค่าโฆษณาหาตัวถ้าน้องหาย
ค่าฝากเลี้ยงถ้าต้องไปต่างประเทศ
วัคซีน (บางแผน premium เท่านั้น)
สิ่งที่ไม่คุ้มครอง (อ่านดีๆ ตรงนี้สำคัญ):
โรคประจำตัวที่มีอยู่ก่อน: ถ้าน้องป่วยอยู่แล้วค่อยมาทำประกัน = ไม่จ่าย
ระยะรอคอย: ทำวันนี้ไม่ได้ claim พรุ่งนี้ ต้องรอ 60 วันสำหรับเจ็บป่วย, 90 วันสำหรับเสียชีวิต
อายุเกินเกณฑ์: ส่วนใหญ่รับ 3 เดือน - 7 ปี น้องแก่กว่านี้ทำใหม่ไม่ได้
พันธุ์บางพันธุ์: หมาพันธุ์ที่มีปัญหาก้าวร้าว อาจไม่คุ้มครองถ้ากัดคน
วงเงินต่อครั้ง: ส่วนใหญ่จ่ายแค่ 1,000-5,000 บาท/ครั้ง
วงเงินสูงสุดต่อปี: ปกติอยู่ที่ 20,000-40,000 บาท
การ claim: ต้องจ่ายเองก่อน เก็บใบเสร็จ แล้วส่งเอกสารไป claim รอรับเงินคืน ไม่ได้จ่ายตรงที่คลินิกเหมือนประกันสุขภาพคน
มาคำนวณกันจริงจัง — คุ้มตอนไหน?
แผน basic (2,950 บาท/ปี)
คุ้มถ้า: พาไปฉุกเฉินครั้งนึงที่ค่ารักษา 3,000+ บาท หรือไปหาหมอเจ็บป่วยประมาณ 5 ครั้ง
เหมาะกับ: น้องที่ต้องไปหาหมอบ่อย หรือป่วยเล็กน้อยบ่อยๆ
ไม่คุ้มถ้า: แข็งแรงปกติ ปีนึงไปฉีดวัคซีนครั้งเดียวจบ
แผน premium (12,000 บาท/ปี)
คุ้มถ้า: เจอเหตุใหญ่ครั้งนึงที่ค่ารักษา 15,000-24,000+ บาท
เหมาะกับ: พันธุ์ที่มีปัญหาสุขภาพบ่อย (พั๊ก, เยอรมันเชพเพิร์ด, โกลเด้นฯ), น้องเริ่มอายุมาก หรือเริ่มมีปัญหาสุขภาพ
ไม่คุ้มถ้า: ยังหนุ่มสาว แข็งแรงดี และมีเงินสำรอง 50,000 บาทพร้อมอยู่แล้ว
ลองคิดดู 5 ปี:
สมมติเลือกแผนกลาง (5,400 บาท/ปี)
ซื้อประกัน: จ่ายประกัน 27,000 + ค่าที่ประกันไม่ครอบคลุม 10,000 = 37,000 บาท
ไม่ซื้อประกัน: ค่าปกติ 15,000 + ถ้าเจอเหตุใหญ่ 60,000 = 75,000 บาท
ประกันประหยัดได้ 38,000 บาท ถ้าเจอเหตุใหญ่สักครั้งใน 5 ปี
แต่ถ้าน้องแข็งแรงตลอด ไม่มีอะไร? ก็จ่ายประกันไป 27,000 บาท โดยไม่ได้ใช้เลย
ซื้อประกันเมื่อไหร่ถึงคุ้ม?
ซื้อเลยถ้า:
เลี้ยงพันธุ์เสี่ยง: พั๊ก (ปัญหาหายใจ), เยอรมันเชพเพิร์ด (สะโพกเสื่อม), โกลเด้นฯ (เสี่ยงมะเร็ง), บูลด็อก (ปัญหาผิวหนัง)
เริ่มเห็นอาการแล้วแต่ยังไม่ได้ไปหาหมอ: ทำประกันก่อนไปตรวจ เพราะพอหมอวินิจฉัยออกมา มันจะกลายเป็น "โรคประจำตัว" ทันที
ไม่มีเงินฉุกเฉิน 50,000 บาทพร้อม: ถ้าเจอบิลหมื่นแสนจะเดือดร้อน
เลี้ยงหลายตัว: บางบริษัทให้ส่วนลด
พันธุ์ใหญ่/ยักษ์: ค่าผ่าตัดแพงกว่า มักมีปัญหาเอ็นไขว้ ท้องอืด
ไปคลินิกแพง: ถ้าใช้คลินิกแถวสุขุมวิท ทองหล่อ อาจแพงกว่าที่อื่น 2-3 เท่า
ไม่ต้องซื้อก็ได้ ถ้า...
เก็บเงินเองดีกว่าถ้า:
น้องยังเด็ก (ต่ำกว่า 3 ปี) ไม่มีปัญหาประจำพันธุ์
มีเงินสำรอง 20,000-50,000 บาท พร้อมจ่ายตอนฉุกเฉิน
ใช้คลินิกย่านบ้าน ไม่จำเป็นต้องไปที่หรูหรา
น้องมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว (ประกันไม่จ่ายอยู่ดี)
มีวินัย เก็บเงินเป็นจริงๆ
กลยุทธ์เก็บเอง:
เอาเงินที่จะจ่ายประกัน (200-800 บาท/เดือน) มาเก็บจริงจัง
ตั้งเป้า 50,000 บาท ภายใน 2-3 ปี
ใช้คลินิกท้องถิ่นสำหรับเรื่องปกติ (ถูกกว่าเยอะ)
เก็บโรงพยาบาลใหญ่ไว้สำหรับฉุกเฉินจริงๆ
ความเห็นจากคนไทยใน Reddit: หลายคนบอกว่าค่าหมอในไทยยังไม่แพงพอที่จะต้องซื้อประกัน ยกเว้นน้องมีโรคเรื้อรังหรือเจอเหตุใหญ่จริงๆ
แนวทางกลางๆ ที่เหมาะกับคนไทยส่วนใหญ่
กลยุทธ์แบบผสม:
ข้ามประกันช่วง 2-3 ปีแรก (ตอนน้องยังเด็ก แข็งแรง)
เก็บเงินฉุกเฉิน 30,000-50,000 บาทก่อน
ซื้อประกันตอนอายุ 4-5 ปี (ก่อนเกินเกณฑ์อายุ และเป็นช่วงที่เริ่มมีปัญหาสุขภาพ)
เลือกแผนกลาง (5,000-6,000 บาท/ปี) คุ้มครองเหตุใหญ่
จ่ายเองสำหรับเรื่องปกติ (วัคซีน ตรวจประจำปี)
เทคนิคประหยัด:
ใช้โรงพยาบาลสัตว์ของรัฐหรือมหาวิทยาลัย ค่ารักษาถูกกว่า
คลินิกท้องถิ่นสำหรับวัคซีนและเรื่องเล็กๆ (ประหยัดได้ 50-70%)
ซื้อยาออนไลน์ถ้าเป็นยาประจำ อาจถูกกว่า
ถ้าเลี้ยงหลายตัว นัดตรวจพร้อมกัน อาจได้ส่วนลด
Pawjai ช่วยคุณตัดสินใจได้ยังไง?
จริงๆ แล้วคำตอบว่า "ควรซื้อประกันไหม" มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมสุขภาพของน้อง ไปหาหมอบ่อยแค่ไหน มีปัญหาอะไรซ้ำๆ หรือเปล่า
ปัญหาคือหลายคนจำไม่ได้ว่าเดือนที่แล้วพาไปหาหมอกี่ครั้ง ใช้เงินไปเท่าไหร่ หรือน้องมีอาการแปลกๆ บ่อยแค่ไหน
Pawjai ช่วยให้บันทึกทุกอย่างได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม อาการ ค่าใช้จ่าย การไปหาหมอ พอมีข้อมูลชัดเจน ก็ตัดสินใจได้ว่า:
น้องไปหาหมอบ่อยจริงไหม? ถ้าปีนึงไป 5-6 ครั้ง ประกันอาจคุ้ม
ใช้เงินไปเท่าไหร่จริงๆ? ถ้าปีนึงใช้แค่ 5,000 บาท ประกันอาจไม่คุ้ม
มี pattern ของปัญหาสุขภาพไหม? ถ้าเห็นอาการบางอย่างซ้ำๆ ควรทำประกันก่อนไปหาหมอวินิจฉัย
และถ้าตัดสินใจซื้อประกันแล้ว Pawjai ช่วยให้มีเอกสารครบสำหรับ claim ไม่ต้องนั่งนึกว่า "เมื่อไหร่นะที่ไปหาหมอครั้งนั้น ใช้เงินเท่าไหร่"
เริ่มต้นใช้ Pawjai ฟรี เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพของน้อง และตัดสินใจเรื่องประกันได้อย่างมั่นใจ
อยากรู้จัก Pawjai มากขึ้น? แวะมาอ่านเรื่องราวของเราได้ที่ pawjai.co/about

Tags
- ประกันสัตว์เลี้ยง
- pet insurance thailand
- ค่ารักษาสัตว์
- ค่าหมอ
- ค่าสัตวแพทย์
- pet health costs
- การเงินสัตว์เลี้ยง
- ดูแลสัตว์เลี้ยง
- pet wellness
- ประกันหมา
- ประกันแมว
- pet emergency fund
Share this article
About the Author
เปเป้พอใจ
Pet care expert and veterinary advisor passionate about helping pet parents give their furry friends the best life possible.
Ready to track your pet's health?
Start using Pawjai today—free forever
Start FreeHappy pet, happy family